Yoko Ono
b. 1933, Tokyo, Japan
Lives and works in New York, USA
Born in 1933 in Tokyo, Yoko Ono is a multimedia artist, singer, songwriter, and peace activist. Ono achieved critical acclaim in 1980 with the album Double Fantasy, a collaboration with Lennon released three weeks before he was shot. Ono held retrospective exhibitions at Whitney Museum, Japan Society, Museum of Modern Art New York, Schirin Kunsthalle Frankfurt, Guggenheim Museum, Bilbao. In 2009, Ono received the Golden Lion Award for lifetime achievement at the Venice Biennale.
Ono is regarded as a pioneer of conceptual art and performance art. She performed the seminal work Cut Piece (1964-66) in Kyoto, Tokyo, New York, and London. Dressed on stage with a pair of scissors, Ono invited members of the audience to cut off pieces of her clothing as she sat silently. Her performance was intended to confront issues of gender, class, and cultural identity.
Ono has been an activist for peace and human rights since the 1960s. Both Ono and Lennon became close to many radical counter-culture leaders. Ono remains outspoken in her support of feminism and against the evils of racism and sexism. In 2020, Ono created two banners with messages of hope Dream Together on the façade of the Metropolitan Museum of Art, New York. In Bangkok, her photo of Cut Piece is placed on the façade of Bangkok Art and Culture Centre.
โยโกะ โอโนะ
เกิด พ.ศ. 2476, โตเกียว, ญี่ปุ่น
อาศัยและทำงานอยู่ที่ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
โยโกะ โอโนะ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2476 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นศิลปินมัลติมีเดีย
นักร้อง นักแต่งเพลงและนักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพ ในปี พ.ศ. 2512 โยโกะ และ จอห์น เลนนอน จัดแสดง Bed-Ins for Peace ในห้องนอนที่โรงแรมในกรุงอัมสเตอร์ดัมและมอนทรีออล
เพื่อเป็นการประท้วงต่อต้านสงครามเวียดนาม โยโกะจัดนิทรรศการรวบรวมผลงานย้อนหลังที่
Whitney Museum of American Art, Japan Society, Museum of
Modern Art มหานครนิวยอร์ค, พิพิธภัณฑ์
Schirn Kunsthalle เมืองแฟรงก์เฟิร์ต, Guggenheim Museum เมืองบิลเบา ในปี พ.ศ. 2551 เธอได้รับรางวัล
Golden Lion Award เป็นเกียรติยศความสำเร็จสูงสุดที่งานเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติเวนิส
เบียนนาเล่
ในทศวรรษ 1960 จอห์น เคจ, มาร์แซล ดูชองป์ และลัทธินีโอดาด้า มีอิทธิพลอย่างมากต่องานศิลปะของโยโกะ
เธอเริ่มมีส่วนร่วมกับวงการศิลปะย่านกลางเมืองนิวยอร์ค ซึ่งรวมถึงกลุ่มฟลักซัสด้วย
ในปี พ.ศ. 2504 เธอได้จัดนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกที่ AG Gallery โดยเธอร่วมมือกับจอร์จ
มาชิวนัส, ชาร์ล็อต มัวร์แมน และจอร์จ เบร็คท์
โยโกะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกศิลปะแนวคอนเซ็ปชวลอาร์ตและศิลปะแสดงสด
เธอแสดงผลงานซึ่งมีอิทธิพลต่อศิลปินในรุ่นหลังอย่าง Cut
Piece ที่กรุงเกียวโต
โตเกียว นิวยอร์ค ลอนดอน และ ปารีส (ปีพ.ศ. 2507-2546)
โดยเธอแต่งตัวและขึ้นบนเวทีพร้อมกรรไกรหนึ่งอัน
ให้ผู้ชมตัดเสื้อผ้าของเธอออกโดยเธอจะนั่งเงียบๆ
การแสดงสดของเธอมีจุดมุ่งหมายเพื่อเผชิญหน้ากับประเด็นทางเพศ ชนชั้น และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม
จอน เฮนดริกส์ เขียนเกี่ยวกับผลงาน Cut Piece ว่า “แสดงให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนกันระหว่างศิลปิน สิ่งของกับผู้ชม
และความรับผิดชอบที่ผู้ชมมีต่อการรับและรักษางานศิลปะ”
โยโกะเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพและสิทธิมนุษยชนมาตั้งแต่ทศวรรษ
1960 ทั้งเธอและจอห์นสนิทสนมกับผู้นำวัฒนธรรมต่อต้านหัวรุนแรงหลายคน
ในปัจจุบันเธอยังคงสนับสนุนสตรีนิยมและต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและการกีดกันทางเพศอย่างตรงไปตรงมา
ในปี พ.ศ. 2545 เธอทำป้ายโฆษณาในจตุรัสพิคคาดิลลี
กรุงลอนดอน โดยมีเนื้อเพลงจากเพลง Imagine
ของจอห์นท่อนนึงว่า “ลองนึกภาพผู้คนทุกคนใช้ชีวิตอย่างสงบสุข” เธอเปิดตัวรางวัลสันติภาพ LennonOno Grant for Peace และมอบรางวัลให้กับศิลปินที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคแห่งความขัดแย้ง ในปี พ.ศ. 2563
เธอได้ทำแบนเนอร์ 2 ชิ้นพร้อมข้อความแห่งความหวัง Dream
Together ติดด้านหน้า Metropolitan Museum of Art กลางมหานครนิวยอร์ค ในกรุงเทพฯ ภาพถ่ายการแสดงสด Cut
Piece ของเธอในปี พ.ศ.
2508 ติดตั้งที่ด้านหน้าอาคารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร