In her installation How Does One Say Queen in Islam? (2020), made specially for the Bangkok Art Biennale, Naqvi has constructed a new, personalised version of Islamic history, using words only uttered by women. Here, traditional forms of story-telling meld with tales and songs from her childhood in a dream landscape where female leaders, warriors, singers and revolutionaries jostle with the symbolic presence of her mother and grandmother.
On an embroidered quilt, on masks, and in a filmed performance that uses both, Naqvi invokes such diverse heroes as Queen Arawelo - the mythical leader of the Somali people, Razia Sultana - the 13th century ruler of the Delhi Sultanate, Sayyida Al Hurra - the 16th century ‘pirate’ Queen of Tétouan , Umm Kulthum – the glittering Egyptian chanteuse and film star, Fatima al-Fihri – the 9th century founder of the world’s first university in Fez, Asiya bint Muzahim – the adoptive mother of Moses in the Islamic tradition, the Queen of Sheba – the fabled ruler of Egypt, Ethiopia and what is now Yemen, and Khawlah bint al-Azwar – a legendary Muslim warrior at the time of Muhammad. Together, with memories of her family and friends, the shades of these eminent women surrealistically celebrate liberation, affirmation, joy and hope.
ในศิลปะจัดวาง How Does One Say Queen in Islam? ในปี พ.ศ. 2563 ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับงานบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2020 ซาร่าห์ได้สร้างประวัติศาสตร์อิสลามฉบับใหม่ โดยใช้คำที่ผู้หญิงใช้เท่านั้น รูปแบบการเล่าเรื่องแบบดั้งเดิมผสมผสานเข้ากับนิทานและเพลงในวัยเด็กของเธอ ในดินแดนที่เหมือนความฝันที่ผู้นำ นักรบ นักร้องและนักปฏิวัติหญิงร่วมต่อสู้กับการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของแม่และยายของพวกเธอ
ซาร่าห์วิงวอนต่อวีรบุรุษหลากหลายบุคคล ผ่านผ้านวมปัก ผ้าปิดปากและการแสดงที่ผ้านวมปักและผ้าปิดปากดังกล่าวปรากฏ อย่างเช่น ราชินีอะราเวโล ผู้นำในตำนานของชาวโซมาเลีย, ชายาสุลต่านราเซีย ผู้ปกครองอาณาจักรสุลต่านเดลีในศตวรรษที่ 13, ซัยยิดา อัล ฮูรา ราชินีโจรสลัดแห่งเตโตอวนในศตวรรษที่ 16, อุม กุลทุม นักร้องหญิงและดาราภาพยนตร์ชาวอียิปต์, ฟาติมา อัล ฟิห์รี ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลกที่เมืองเฟซในศตวรรษที่ 9, อาซิยา บินต์ มูซาฮิม มารดาบุญธรรมของโมเสสตามศาสนาอิสลาม, ราชินีแห่งชีบา ผู้ปกครองในตำนานของอียิปต์ เอธิโอเปียและดินแดนที่ในปัจจุบันคือประเทศเยเมน, และ คาวลาห์ บินต์ อัล อัซวาร์ นักรบมุสลิมในตำนานในช่วงชีวิตนบีมูฮัมหมัด เป็นต้น ผู้หญิงที่มีชื่อเสียงเหล่านี้จะร่วมเฉลิมฉลองการปลดปล่อยและยืนยันตัวตน ตลอดจนความสุขและความหวังอย่างเหนือจริง ร่วมกับความทรงจำของครอบครัวและเพื่อนๆ ของเธอ
