Choy Ka Fai’s multidisciplinary art practice situates itself at the intersection of dance, media art and performance. At the heart of his research is a continuous exploration of the metaphysics of the human body. Through research expeditions, pseudo-scientific experiments and documentary performances, Choy appropriates technologies and narratives to imagine new futures of the human body. From technological experiments, anthropological discoveries to dance experiences that swing from the futuristic to the paranormal, Choy’s productions are often infused with a sense of irreverence or the bizarre, suggesting possibilities that seem almost absurd. Humour is used as a device to simultaneously disarm and expose preconceptions towards dance. In this manner, it serves too, as a means to interrogate present realities around the human body.
The Cosmic Wander project researches on shamanistic dance cultures in Asia. Venturing into the region in search of the most spectacular and immersive trance experiences, Choy had met over 50 shamans and filmed extraordinary dance rituals, from the wilderness of Siberia to the mythological practices in Java. Presented at Bangkok Art Biennale 2020 is a work produced from the artist’s trip to Olkhon Island in Lake Baikal, the last stronghold of the North Asian shamans, titled Blue Sky Academy (2020). The work is both a travelogue and an artistic interpretation of contemporary shamanistic practices that are resurfacing with the rise of post-human consciousness. Installed as a pseudo travel agency, it is also a tongue-in-cheek commentary on consumable spiritual encounters and an experimentation in transcendent experiences of a future, virtual world, where lines between the spiritual and the secular, virtual and material, are blurred.
ศิลปะสหสาขาของ ชอย คา ไฟ คาบเกี่ยวระหว่างการเต้นรำ ศิลปะสื่อและการแสดง โดยหัวใจสำคัญคือการสำรวจวิจัยอภิปรัชญาของร่างกายมนุษย์อย่างต่อเนื่อง ผ่านการสำรวจวิจัย การทดลองทางวิทยาศาสตร์เทียมและการแสดงเชิงสารคดี และใช้เทคโนโลยีและเรื่องเล่าในการจินตนาการถึงอนาคตใหม่ของร่างกายมนุษย์ ผลงานของเขามักจะอบอวลไปด้วยความรู้สึกไม่เคารพหรือแปลกประหลาด ไม่ว่าจะเป็นการทดลองทางเทคโนโลยี การค้นพบทางมานุษยวิทยา หรือแม้กระทั่งประสบการณ์การเต้นรำที่ข้ามไปมาระหว่างความล้ำยุคกับความอาถรรพณ์ บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ที่ดูเหมือนแทบจะไร้สาระ ในขณะเดียวกันนั้นอารมณ์ขันถูกใช้เป็นอุปกรณ์ในการปลดอาวุธและเผยให้เห็นอคติต่อการเต้นรำ ซึ่งในลักษณะนี้มันก็ทำหน้าที่เป็นสื่อในการซักถามความเป็นจริงในปัจจุบันรอบตัวมนุษย์เช่นกัน
ในโปรเจ็ค Cosmic Wander ชอยศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมการเต้นรำในพิธีทรงเจ้าเข้าผีในเอเชีย โดยเขาออกเดินทางสู่ภูมิภาคต่างๆ ค้นหาประสบการณ์ภวังค์ที่น่าตื่นตาและดื่มด่ำที่สุด และได้พบกับคนทรงเจ้ากว่า 50 คนและถ่ายทำพิธีกรรมเต้นรำของพวกเขาเหล่านั้น ตั้งแต่พิธีกรรมในถิ่นทุรกันดารไซบีเรียไปจนถึงพิธีกรรมตามตำนานที่ถือปฏิบัติกันมาในชวา ในงานบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2020 เขาจะจัดแสดงผลงานที่เกิดจากการเดินทางไปยังเกาะโอลคอนในทะเลสาบไบคาล ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของคนทรงเจ้าในเอเชียเหนือภายใต้ชื่อ Blue Sky Academy ผลงานนี้เป็นทั้งหนังสือท่องเที่ยวและการตีความเชิงศิลปะเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของคนทรงเจ้าร่วมสมัยที่กำลังปรากฏขึ้นใหม่พร้อมกับการเติบโตของกระแสจิตสำนึกหลังมนุษย์ และเนื่องจากทำออกมาในรูปแบบบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวปลอม ผลงานนี้จึงยังเป็นการแสดงความคิดเห็นเชิงเสียดสีเกี่ยวกับการเผชิญหน้าทางจิตวิญญาณที่สิ้นเปลืองและการทดลองเกี่ยวกับประสบการณ์เหนือธรรมชาติของโลกเสมือนจริงในอนาคตที่เส้นแบ่งระหว่างโลกโลกุตระและโลกโลกียะ ระหว่างเสมือนจริงและความจริง ไม่ชัดอีกต่อไป